ความเชื่อทำไมคนท้อง ถึงต้องติดเข็มกลัด ทำเพื่ออะไรมาดูกัน
ผู้ใหญ่บอกต่อๆ กันมาให้กลัดไว้เด็กจะได้ไม่หลุด บ้างว่าป้องกันภูตผี สิ่งชั่วร้ายมารบกวนลูกน้อย แล้วจริงๆ เข็มกลัดมีความสำคัญกับคนท้องและลูกในท้องอย่างไรกันแน่
ความเชื่อเกี่ยวกับเข็มกลัด และคนท้อง
สาเหตุที่คนท้องต้องติดเข็มกลัด เพราะคนโบราณมีความเชื่อที่บอกต่อกันมารุ่นต่อรุ่น จนบางครั้งคนรุ่นใหม่ที่ติดเข็มกลัด ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ติดไปเพื่ออะไร รู้แต่ว่า ผู้ใหญ่ทักว่าให้ติด ก็เลยติดเพื่อความสบายใจ
รวมความเชื่อเกี่ยวกับเข็มกลัดและคนท้อง ตามนี้นะ
ป้องกันเด็กหลุด เนื่องจากเข็มกลัดมีไว้กลัดสิ่งต่างๆ กันหลุด ดังนั้นจึงว่ากันว่า ให้คนท้องติดเข็มกลัดเอาไว้เด็กจะได้มีสุขภาพ แข็งแรง สมบูรณ์ ไม่หลุด ไม่แท้ง ป้องกันผีหรือสิ่งเร้นลับมารบกวนลูกในท้อง เพราะคนท้องอ่อนแอง่าย ให้ติดเข็มกลัดไว้ที่ชุดคลุมท้อง จะไม่มีอะไรมารบกวนหรือทำอันตรายลูกในท้องเราได้ ป้องกันวิญญาณที่อยากจะมาเกิดเข้ามาอยู่ในท้องแทนลูกของเรา เวลาที่คนท้องต้องไปงานศพ หรือเดินผ่านวัด หรือไปโรงพยาบาล ก็มีโอกาสที่ดวงวิญญาณจะเข้ามาอยู่ในท้องแทนลูกของเรา ดังนั้น คนท้องควรติดเข็มกลัดเอาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ดวงวิญญาณเข้ามาอยู่ในท้องเราได้
เรื่องคนท้องกับงานศพนี้ ว่ากันว่าเป็นกุศโลบายของคนโบราณในการที่จะป้องกันคนท้องเป็นอันตรายเมื่อต้องเดินทางกลางคืนมากกว่า เนื่องจากสมัยก่อนการเดินทางกลางคืนนั้นลำบาก อาจหกล้มและอาจเป็นอันตรายกับทั้งแม่และลูก จึงมีกุศโลบายว่า คนท้องที่จะไปงานศพต้องติดเข็มกลัดที่ท้องเพื่อป้องกันลูกในท้องก่อน จึงจะไปงานศพได้ แต่สมัยก่อนเข็มกลัดหายาก แม่ท้องเลยล้มเลิกไม่ไปงานศพง่ายกว่าหาเข็มกลัด
ความจริงเกี่ยวกับเข็มกลัด และคนท้อง
การติดเข็มกลัดนั้น จริงๆ แล้วเป็นกุศโลบายของคนโบราณที่จะให้คนท้องระวังตัว และคนไม่ท้องก็จะได้สังเกตเห็นและระมัดระวังไม่ให้เกิดอันตรายกับคนท้องด้วย เตือนคนอื่นให้ระมัดระวังคนท้อง เวลาคนท้องกลัดเข็มกลัดเอาไว้ เวลาเดินไปไหน คนจะสังเกตเห็นได้ง่าย และรู้ว่ากำลังท้องอยู่ เพราะแม่ท้องบางคนตัวเล็กท้องไม่ค่อยออก คนก็ไม่รู้ว่าท้อง
ส่วนแม่บางคนตัวใหญ่ คนก็นึกไปว่า คนนี้อ้วนหรือเปล่า ดังนั้นติดเข็มกลัดไว้ที่พุงให้เด่นๆ คนจะได้ระมัดระวังไม่ชน ไม่กระแทกให้เป็นอันตราย นอกจากนี้ หากโดยสารรถสาธารณะ คนจะได้สังเกตเห็นและลุกให้นั่งทันที
บทความจาก...... facebook พระอธิการ นพดล กันตสีโล วัดหนองรั้ว
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น