เริ่มต้นลดน้ำหนักแบบง่ายๆ ด้วยส้ม 1 ลูก

ส้ม (Orange) ผลไม้มีรสเปรี้ยวหรือหวาน ที่ช่วยดับกระหายและให้ความสดชื่นได้เป็นอย่างดี แถมยังมีแคลเซียม โปแทสเซียม ไวตามินเอ และไวตามินซี มากเป็นพิเศษ


คุณรู้หรือไม่ว่า “ส้ม” ก็เป็นหนึ่งในผลไม้ลดน้ำหนักที่ดีที่สุดชนิดหนึ่งเหมือนกัน ถ้าหากว่าคุณกำลังมองหาผลไม้ลดน้ำหนักรสอร่อยอยู่ล่ะก็ ลองอ่านบทความนี้ให้จบแล้วคุณอาจจะค้นพบผลไม้ลดน้ำหนักที่ดีที่สุดสำหรับคุณก็เป็นได้

ส้ม จัดอยู่ในกลุ่มของ Citrus Fruits หรือผลไม้รสเปรี้ยวที่มีน้ำมันหอมระเหยอยู่ที่เปลือก ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับ มะนาว ส้มโอ ถ้าพูดถึงประโยชน์ของส้มต่อการลดน้ำหนัก ส้มเป็นผลไม้ที่มีน้ำค่อนข้างเยอะ และยังเป็นผลไม้ที่มีเส้นใยอยู่มาก

ด้วยสองปัจจัยนี้ส้มจึงสามารถทำให้คุณไม่หิวไปได้สักระยะหนึ่งเลยทีเดียว และเมื่อคุณไม่กิน น้ำหนักมันก็คงไม่ขึ้น จริงไหม? นอกจากนี้คุณก็คงจะเคยรู้กันมาแล้วว่าส้มนั้นเด่นดังในเรื่องของวิตามินซี ซึ่งปริมาณวิตามินซีที่พบในส้มนั้นมีมากถึง 140%

สำหรับปริมาณวิตามินซีที่ควรได้รับในแต่ละวันเลยทีเดียว นั่นหมายความว่ากินแค่ผลเดียว ก็มีวิตามินซีเหลือใช้ไปถึงวันพรุ่งนี้เลย

นอกจากวิตามินซีแล้วในส้มก็ยังมี แคลเซียม ไทอามีน ไนอาซีน โพแทสเซียม และแมกนีเซียมอีกด้วย เรียกได้ว่าโบนัสเพียบกันเลยทีเดียว

หลายคนอาจจะมีคำถามอยู่ในใจว่าจะกินน้ำส้มแทนได้หรือเปล่า น้ำส้มถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการจะลดน้ำหนัก การเปลี่ยนจากน้ำอัดลมหรือน้ำหวานต่างๆมาเป็นน้ำส้มนั้นถือเป็นความคิดที่ดี เพราะน้ำตาลที่ได้จากน้ำส้มนั้นเป็นน้ำตาลจากธรรมชาติ แต่น้ำตาลจากน้ำอัดลมหรือน้ำหวานนั้นต่างออกไป

แต่อย่างไรก็ตามใน น้ำส้ม 1 แก้ว นั้นมีปริมาณน้ำตาลมาถึง 20 กรัม ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณที่ไม่น้อยเลย มันจึงเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นที่ดีเท่านั้น แต่ถ้าหากคุณยังต้องการที่จะดื่มน้ำส้มต่อไปคุณก็จำเป็นที่จะต้องผสมน้ำเปล่าเข้าไป น้ำส้ม 1 ส่วนและน้ำเปล่าอีก 3 ส่วน

เพียงเท่านี้คุณก็จะสามารถดื่มน้ำส้มได้โดยที่ยังคงได้สารอาหารครบถ้วนและได้น้ำตาลน้อยลงด้วย แต่ถ้าใครจะไม่ดึงดันต่อคุณก็สามารถกินแบบเป็นผลได้เลย ส้ม 1 ผลให้ 65 แคลอรี่และมีไขมัน 0 กรัม

ถ้าใครต้องการผิวสวยๆไปพร้อมกับหุ่นเพรียวๆล่ะก็เลือกส้มเป็นผลไม้ลดน้ำหนักของคุณ แน่นอนว่าถ้ากินเป็นกิจวัตรล่ะก็ผิวพรรณของคุณจะสวยขึ้นเป็นกองเลย แล้วก็อย่าลืมที่กินจะอาหารลดน้ำหนักพร้อมกับออกกำลังกายควบคู่ไปด้วยล่ะ



บทความจาก...... foodslender.com