WHAT'S NEW?
Loading...

รอยลิปสติกอาจมีอันตรายถึงชีวิต วิธีแก้รอยเปื้อนที่หนุ่มๆต้องรู้!!


Advertisements

รอยลิปสติกอาจมีอันตรายถึงชีวิต วิธีแก้รอยเปื้อนที่หนุ่มๆต้องรู้!! Photo By stylecaster.com

1.รอยเปื้อนคราบเลือดจางๆ (คราบเก่า) ใช้เบกกิ้งโซดาผสมน้ำสักเล็กน้อย จนข้น นำไปถูเบาๆ ตรงรอยเปื้อน เมื่อแห้งจึงปัดฝุ่นออก

2.รอยเปื้อนคราบเลือดฝังแน่น ใช้ฟองน้ำจุ่มน้ำเย็นที่ผสมเกลือจนชุ่ม ถูเบาๆ จนรอยค่อยๆ จางลง แล้วใช้น้ำเปล่าถูอีกครั้ง สุดท้ายใช้ทิชชูซับน้ำให้แห้ง

3.เปื้อนครีม เนย น้ำมัน นำแป้งฝุ่นทาตัวมาโรย ใช้กระดาษทิชชู หรือกระดาษบางอื่นๆ วางทับ นำเตารีดที่ร้อนพอสมควร วางทับบนกระดาษ จนแป้งดูดคราบมันออกหมด จึงนำไปซัก

4.รอยเปื้อนสนิม นำผ้ามาชุบน้ำให้เปียกก่อน บีบน้ำมะนาวลงไปบนรอยเปื้อนทิ้งไว้สักครู่ แล้วจึงนำไปซักตามปกติ

5.ผ้าขาวที่ออกสีเหลือง ใช้เปลือกไข่ป่นละเอียด ใส่ในกะละมังซักผ้า แช่ทิ้งไว้สักครู่ แล้วจึงซักตามปกติ

6.ผ้าขึ้นรา (เล็กน้อย) นำผ้าไปซักในน้ำสบู่ร้อนๆ หรือบีบมะนาวลงไปตรงที่มีราขึ้น แล้วแช่ผ้าไว้ในผงซักฟอกสักครู่ แล้วจึงซักผ้าตามปกติ

7.รอยเปื้อนยาแดง เช็ดรอยเปื้อนด้วยแอมโมเนีย หรือซักด้วยน้ำส้มสายชูผสมน้ำ

8.รอยเปื้อนยาทาเล็บ ซับที่รอยเปื้อนด้วยน้ำยาล้างเล็บ และเช็ดด้วยผ้าที่สะอาดจนรอยเปื้อนจางลง (ควรลองหยดน้ำยาทาเล็บลงผ้าก่อน)

9.รอยเปื้อนยางกล้วย ใช้มะนาวที่ฝานเป็นชิ้นบางๆ ถูตรงรอยเปื้อนที่เป็นคราบดำแล้วรีบนำมาซักทันที

10.รอยเปื้อนลิปสติก ใช้ มันเปลวหมูทาตรงรอยเปื้อน แล้วจึงซักในน้ำสบู่ร้อนๆ หรือใช้ผงซักฟอกโรยตรงรอยเปื้อน แล้วขยี้ จากนั้นจึงซักตามปกติ หรือใช้วาสลินถูตรงรอยเปื้อน แล้วนำไปซักตามปกตินำผ้าที่เปื้อนไปแช่ในน้ำผสมเกลือทิ้งไว้ ๑ คืน จะทำให้รอยลิปสติกหายไป

นอกจากนี้ในส่วนกรณีที่เสื้อขาวมีความคล้ำหมองไม่มากนัก เป็นเพียงบางแห่งหรือจุดอับที่เกิดคราบเหงื่อไคลได้ง่าย เราสามารถทำความสะอาดให้ผ้ากลับมาขาวก่อนและง่ายต่อการซักได้ด้วยการใช้ "น้ำยาซักผ้า" หรือ "น้ำยาซักผ้าขาว" ป้ายแช่สักพัก ก่อนขัดเบาในบริเวณที่มีคราบฝังแน่น เสื้อก็จะกลับมาขาวจั๊วะน่าใช้เหมือนซื้อใหม่

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เมื่อผ้ากลับมาขาวดังเดิมแล้วเราไม่ควรใช้สารฟอกขาวซักผ้ามากเกินจำเป็น เนื่องจากสารฟอกขาวจะทำลายเนื้อผ้าให้บางและขาดง่าย และที่สำคัญควรตากผ้าในช่วงเวลาที่แดดไม่แรงจนเกินไป เท่านี้ผ้าก็จะใหม่สดเหมือนเพิ่งซื้อออกมาจากร้านเลยทีเดียว



บทความจาก...... thaihealth.or.th






Advertisements

Advertisements

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น