WHAT'S NEW?
Loading...

แก้ส้นเท้าแตกให้กลับมาเนียนนุ่ม ทำได้ง่ายๆด้วย 7 วิธีที่หลายคนนึกไม่ถึง!


Advertisements


ปัญหาส้นเท้าแตกถ้าใครเป็นจะรู้เลยว่าน่ารำคาญม๊ากกก เพราะเท้าจะแห้งๆ เป็นรอยแตกดูแล้วไม่น่ามองอย่างแรง แถมยังขูดนั่นข่วนนี่ไปหมด

วันนี้เราก็เลยไปหาวิธีแก้ส้นเท้าแตกด้วยของจากธรรมชาติมาฝากกันค่ะ แค่ใช้ของหาง่ายๆ ในครัวเรือนนี่แหละ รับรองแก้ได้!!

1. น้ำผึ้ง เพราะในน้ำผึ้งมีมอยซ์เจอไรเซอร์จากธรรมชาติ แถมยังมีสารแอนตี้แบคทีเรีย วิธีการใช้ก็แค่เทน้ำผึ้งลงในน้ำอุ่น แล้วแช่เท้าเอาไว้อย่างน้อย 20 นาที ทำก่อนนอนทุกคืนจะเห็นผลเร็วขึ้น

2. น้ำมันมะพร้าว เรียกว่าเป็นน้ำมันเทพที่ควรมีติดบ้านจริงๆ เพราะเต็มไปด้วยวิตามินอีเข้มข้น ที่จะช่วยสมานผิวแตกๆ ให้เรียบเนียนขึ้นได้เร็ว แค่แช่เท้าในน้ำอุ่น จากนั้นนวดต่อด้วยน้ำมันมะพร้าว แล้วใส่ถุงเท้าเข้านอน ก็เนียนนุ่มชุ่มชื้น

3. เชียบัตเตอร์กับน้ำมะนาว เป็นบัตเตอร์เนื้อเข้มข้นเหมือนขี้ผึ้ง ดังนั้นจึงช่วยให้เท้านุ่มสมานผิวให้หายแตกได้ วิธีใช้คือแช่เท้าในน้ำอุ่นผสมน้ำมะนาวแล้วขัดที่รอยแตกเบาๆ จากนั้นเช็ดเท้าให้แห้งแล้วโปะเชียบัตเตอร์ลงไป และใส่ถุงเท้าเข้านอน

4. กล้วย กล้วยมีเอนไซม์ที่จะช่วยกระตุ้นให้ผลัดเซลล์ผิวใหม่ ดังนั้นลองบดกล้วย 1 ลูก กับน้ำมันมะพร้าว 2 ช้อนโต๊ะ แล้วพอกเท้าเอาไว้ 20 นาที โดยใส่ถุงพลาสติกครอบอีกชั้น จากนั้นล้างออกด้วยน้ำอุ่นแล้วทาครีมบำรุงให้ชุ่มชื่น

5. เปลือกมะนาวและเกลืดขัดผิว เราต้องขัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกให้หมด เพื่อให้ส้นเท้าแตกกลับมาเนียนนุุ่มอีกครั้ง จึงต้องใช้เกลือขัดผิวทาบนเปลือกมะนาว แล้วค่อยๆ ขัดเซลล์ที่ตายแล้วให้หลุดออก เพราะมะนาวมีกรดธรรมชาติที่จะช่วยผลักเซลล์ผิวได้

6. น้ำมันมะกอก อีกหนึ่งของดีที่ควรมีติดบ้านไว้เลย สำหรับน้ำมันมะกอก ซึ่งนอกจากจะหมักผม หมักผิวให้นุ่มแล้ว เรายังเอาน้ำมันมะกอกมาทาที่ส้นเท้าแตก เพื่อสมานผิวได้อีกด้วย วิธีใช้ก็แค่ทาน้ำมันมะกอกที่เท้าทุกวัน ใส่ถุงเท้าเข้านอน จากนั้นล้างออกด้วยน้ำอุ่น

7. เบกกิ้งโซดา ราชาแห่งก้นครัวจริงๆ สำหรับเบกกิ้งโซดา ที่แค่หยิบมาผสมน้ำแล้วขัดเบาๆ ที่เท้า ก็จะช่วยเสกเท้าให้เนียนนุ่มได้อย่างไม่น่าเชื่อ เคล็ดลับคือหลังจากขัดแล้วให้ทิ้งไว้สัก 5-10 นาที ก่อนล้างออก หลังจากล้างออกแล้วให้ทาครีมบำรุงแแล้วใส่ถุงเท้า รับรองหายแน่






บทความจาก...... ladyissue







Advertisements

Advertisements

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น